ดอกเอ๋ยดอกราชาวดี
ลาแล้วลาลับนับเดือนนับปี
คงจะไม่มีวันหวน...มาเอย
ฉันรู้จักดอกไม้ชื่อไพเราะอ่อนหวานชนิดนี้ครั้งแรก
จากบทกวีในหนังสือเรื่อง"แรงรัก" ของทมยันตรี
เนื้อหาและความหมายเศร้าๆในหนังสือ
ทำให้ฉันตกหลุมรักดอกไม้ชนิดนี้ทันที
พยายามหามาปลูกที่บ้านจนได้
หมั่นรดน้ำพรวนดินอยู่ไม่นานก็ออกดอกเป็นช่อเล็กๆสีขาว
หน้าตาเหมือนดอกหญ้าหอมกรุ่น
อยู่มาวันหนึ่งฉันเจอต้นอ่อนของราชาวดี
งอกอยู่ตามโคนต้นจึงขุดใส่ถุงเพาะชำแจกให้เพื่อนๆ
พร้อมกับเขียนบทกวีที่ฉันชอบแนบให้ไปด้วย
เพื่อนๆของฉันตื่นเต้นกับดอกราชาวดีมาก
พากันหอบต้นอ่อนกลับไปปลูกอย่างทนุถนอม
อีกไม่นานดอกไม้ที่ฉันให้เพื่อนๆไปปลูกคงจะบาน
และหอมกรุ่นเหมือนมิตรภาพดีๆของพวกเราแน่นอน
.........
ดอกไม้บาน
ความรู้สึกดี..ดีก็ผลิบาน
ฉันเชื่อเช่นนั้น
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Buddleja paniculata Wall.
ชื่อวงศ์ : Loganiaceae
ชื่อสามัญ : Butterfly Bush, Byttneria, Summer lilac
ชื่อพื้นเมือง : ไค้หางหมา, หางกระรอกเขมร
ถิ่นกำเนิด : เขตร้อนของทวีปเอเชีย
ดอกราชาวดีออกบริเวณปลายกิ่ง เป็นช่อใหญ่ แยกออกจากซอกใบทั้ง 2 ด้านของกิ่ง
แต่ละช่อจะประกอบด้วยกิ่งย่อย มีดอกสีขาวขนาดเล็ก รูปร่างเป็นหลอด ปลายกลีบบานคล้ายปากแตร ยาวประมาณครึ่งเซนติเมตรเรียงตัวอยู่รอบๆ กิ่งย่อย ดอกจะทยอยบานในเวลาไล่เลี่ย กันและบานจากโคนกิ่งไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ ในขณะที่ปลายกิ่งจะมีดอกอ่อนเกิดขึ้นใหม่ยาวออก
ไปเรื่อยๆ ตามปลายแหลมของกิ่ง มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ช่วงกลางวัน และหอมแรงตอนกลางคืน
ไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้ตั้งชื่อไม้ดอกต้นนี้ว่าราชาวดี นับว่าตั้งชื่อได้เหมาะสมมาก
ไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้ตั้งชื่อไม้ดอกต้นนี้ว่าราชาวดี นับว่าตั้งชื่อได้เหมาะสมมาก
เพราะนอกจากไพเราะ แล้ว ยังมีความหมายดีมากอีกด้วย
ราชาวดีตามศัพท์แปลว่า ของที่มีขึ้นสำหรับพระราชา เดิมเป็นชื่อเรียกการลงยาเครื่องทองให้เป็นสีฟ้าว่าลงยาราชาวดี เป็นการลงยาเครื่องใช้ของพระราชาเท่านั้น ใช้ลงเฉพาะเครื่องใช้ที่เป็นเงินหรือทอง ถือเป็นของสูงไม่ใช่ของคนสามัญทั่วไป สำหรับต้นราชาวดีนั้น แม้จะมีค่าเทียบได้กับเครื่องทองลงยาสีฟ้าสำหรับพระราชา แต่คนธรรมดาสามัญอย่างพวกเราก็มีสิทธิ์ชื่นชมกับคุณลักษณะพิเศษของไม้หอมชนิดนี้ได้ทั่วกัน
ราชาวดีตามศัพท์แปลว่า ของที่มีขึ้นสำหรับพระราชา เดิมเป็นชื่อเรียกการลงยาเครื่องทองให้เป็นสีฟ้าว่าลงยาราชาวดี เป็นการลงยาเครื่องใช้ของพระราชาเท่านั้น ใช้ลงเฉพาะเครื่องใช้ที่เป็นเงินหรือทอง ถือเป็นของสูงไม่ใช่ของคนสามัญทั่วไป สำหรับต้นราชาวดีนั้น แม้จะมีค่าเทียบได้กับเครื่องทองลงยาสีฟ้าสำหรับพระราชา แต่คนธรรมดาสามัญอย่างพวกเราก็มีสิทธิ์ชื่นชมกับคุณลักษณะพิเศษของไม้หอมชนิดนี้ได้ทั่วกัน
ลักษณะทั่วไป : เป็นไม้กิ่งเถาที่แตกกิ่งก้านสาขามากลำต้นเป็นเหลี่ยมเล็กน้อย เปลือกหุ้มลำต้นมี สีน้ำตาลอมเทา ใบดก เป็นใบเดี่ยว ออกเป็นคู่ตรงข้ามกิ่งสีเขียวกว้าง 3ถึง 5เซนติเมตรยาว 4ถึง7เซนติเมตร หน้าใบสากคายคล้ายกระดาษทรายละเอียด ท้องใบเรียบกว่า ขอบใบจักเป็นซี่เล็กๆโดยตลอด ใบทรงรูปไข่ปลายค่อนข้างแหลม
ฤดูการออกดอก : ออกดอกเป็นระยะตลอดปี
เวลาที่ดอกหอม : หอมแรงตลอดวัน
การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด ราชาวดีที่สวนไม้หอมยังไม่พบการติดเมล็ดยังไม่มีข้อมูลการเพาะ การตอนกิ่ง ต้องใช้ฮอร์โมนบางชนิดทาเหนือรอยควั่นด้านบนจึงจะได้ผลดีปักชำ ใช้กิ่งที่มียอดอ่อนปักชำในกระบะพ่นหมอก หรือปักชำในกระถางขนาดกลางหุ้มด้วยถุงพลาสติก
ข้อแนะนำ: ต้องการแสงแดดจัดตลอดวัน
ควรปลูกกลางแจ้งจึงจะออกดอกได้ดีการปลูกในที่ร่มรำไรจะทำให้ลำต้นยืดยาวและไม่ค่อยออกดอกไม่ต้องการน้ำมาก ควรปลูกในพื้นที่ดอนไม่มีน้ำท่วมขังการให้น้ำในปริมาณมากอาจทำให้เน่าตายได้ ปลูกได้ในดินทุกชนิด แต่เจริญเติบโตได้ดีที่สุดในดินร่วนปนทราย เป็นพันธุ์ไม้ที่ไม่มีทรงพุ่มที่แน่นอน ต้องคอยตัดแต่งทุกครั้งภายหลังการออกดอก
ข้อมูลอื่นๆ: การเจริญเติบโตค่อนข้างช้าทรงพุ่มโปร่งกิ่งก้านเมื่อยังอ่อนจะมีขนละเอียดปกคลุมเมื่อกิ่งแก่ขนจะหลุดเอง สีของลำต้นเป็นสีเทา ใบเป็นใบเดี่ยวออกเป็นคู่ๆตามข้อผิวใบสากมือดอกออกเป็นช่ออยู่ตามปลายกิ่งช่อดอกยาวประมาณ2-3นิ้ว ดอกจะทยอยบานตั้งแต่โคนช่อดอกถึงปลายช่อดอกใช้เวลาประมาณ7-10วัน
ใบ มีขนอ่อนสากมือ คนที่แพ้ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ไม่ควรปลูกอาจทำให้เกิดอาการคันได้
ประโยชน์
เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่เพิ่งเข้ามาประเทศไทยได้ไม่นาน จึงยังไม่พบคุณสมบัติทางสมุนไพรอย่างเป็นทางการของราชาวดี แต่เชื่อแน่นอนว่า หากเชื่อตามหมอชีวกโกมารภัท ว่าไม่มีพืชนิดใดที่ไม่เป็นยา ราชาวดีคงมีคุณสมบัติทางสมุนไพรด้วยแน่นอน โดยเฉพาะกลิ่นหอมแรงนั้น ย่อมมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งอาจใช้ในการรักษาแบบกลิ่นบำบัด (aroma therapy) อันเป็นการแพทย์แบบ ทางเลือกที่กำลังเป็นกระแสนิยมอยู่ทั่วโลกในขณะนี้
ราชาวดีในฐานะไม้หอม อาจปลูกลงดินในบริเวณบ้าน หรือข้างทางเดิน ก็จะให้กลิ่นหอมตลอดวันได้ตลอดทั้งปี หรือหากขาดแคลนที่ดินเหมือนผู้เขียน ก็อาจปลูกในกระถางได้โดยง่าย เพราะราชาวดีเป็นต้นไม้ ที่ปลูกง่ายและแข็งแรงทนทานมากที่สุด ออกดอกได้ง่ายและตลอดเวลา ยิ่งกว่าต้นไม้ดอกชนิดอื่น หากกิ่งเริ่มแก่หรือทรงพุ่มใหญ่โตเกินไปก็ตัดแต่งได้ตามสมควร ราชาวดีจะแตกกิ่งก้าน สาขาและให้ดอกได้ต่อเนื่องโดยไม่เสียเวลาพักตัวเลย โรคและแมลงก็ไม่เป็นปัญหา ผู้เขียนปลูกราชาวดีมาหลายปี ไม่เคยพบปัญหาจากโรคแมลงเลย และไม่เคยพบว่าราชาวดีขาดดอกเลย (ยกเว้นช่วงตัดแต่งกิ่ง)
ราชาวดีนั้นธรรมชาติคงมิได้สร้างขึ้นมาสำหรับพระราชาเท่านั้น แต่คงสร้างมาเป็นของขวัญสำหรับโลก ทั้งโลก ซึ่งรวมถึงสิ่งมีชีวิตทั้งปวง ขอเราจงมาชื่นชมกับของขวัญจากธรรมชาติชิ้นนี้ ให้สมคุณค่าที่มีอยู่นั้นเถิด * ในหนังสือคู่มือคนรักต้นไม้ ไม้ดอกหอมสีขาว สำนักพิมพ์บ้านและสวน กล่าวถึง ถิ่นกำเนิดของราชาวดีว่า มีถิ่นกำเนิดในอินเดียและมาเลเซีย
ราชาวดีในฐานะไม้หอม อาจปลูกลงดินในบริเวณบ้าน หรือข้างทางเดิน ก็จะให้กลิ่นหอมตลอดวันได้ตลอดทั้งปี หรือหากขาดแคลนที่ดินเหมือนผู้เขียน ก็อาจปลูกในกระถางได้โดยง่าย เพราะราชาวดีเป็นต้นไม้ ที่ปลูกง่ายและแข็งแรงทนทานมากที่สุด ออกดอกได้ง่ายและตลอดเวลา ยิ่งกว่าต้นไม้ดอกชนิดอื่น หากกิ่งเริ่มแก่หรือทรงพุ่มใหญ่โตเกินไปก็ตัดแต่งได้ตามสมควร ราชาวดีจะแตกกิ่งก้าน สาขาและให้ดอกได้ต่อเนื่องโดยไม่เสียเวลาพักตัวเลย โรคและแมลงก็ไม่เป็นปัญหา ผู้เขียนปลูกราชาวดีมาหลายปี ไม่เคยพบปัญหาจากโรคแมลงเลย และไม่เคยพบว่าราชาวดีขาดดอกเลย (ยกเว้นช่วงตัดแต่งกิ่ง)
ราชาวดีนั้นธรรมชาติคงมิได้สร้างขึ้นมาสำหรับพระราชาเท่านั้น แต่คงสร้างมาเป็นของขวัญสำหรับโลก ทั้งโลก ซึ่งรวมถึงสิ่งมีชีวิตทั้งปวง ขอเราจงมาชื่นชมกับของขวัญจากธรรมชาติชิ้นนี้ ให้สมคุณค่าที่มีอยู่นั้นเถิด * ในหนังสือคู่มือคนรักต้นไม้ ไม้ดอกหอมสีขาว สำนักพิมพ์บ้านและสวน กล่าวถึง ถิ่นกำเนิดของราชาวดีว่า มีถิ่นกำเนิดในอินเดียและมาเลเซีย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น